ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 นั้น แบ่งค่าตอบแทนในการทำงาน ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. ค่าจ้าง
2. ค่าล่วงเวลา
3. ค่าทำงานในวันหยุด
4. ค่าล่วงเวลาในวันหยุด
1. ค่าจ้าง : หมายถึง เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างสำหรับระยะเวลาการทำงานปกติเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือระยะเวลาอื่น หรือจ่ายให้โดยคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน และให้หมายความรวมถึงเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างในวันหยุดและวันลาที่ลูกจ้างมิได้ทำงาน แต่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามพระราชบัญญัตินี้
ค่าจ้างในวันทำงาน : หมายถึง ค่าจ้างที่จ่ายสำหรับการทำงานเต็มเวลาการทำงานปกติ
นายจ้างจะจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำกำหนดไว้ไม่ได้
การทำงานล่วงเวลา หมายความถึง การทำงานนอกหรือเกินเวลาทำงานปกติหรือเกินชั่วโมงทำงานในแต่ละวันที่นายจ้างลูกจ้างตกลงกัน ในวันทำงานหรือวันหยุด แล้วแต่กรณี
2. ค่าล่วงเวลา หมายความถึง เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงานนอกเวลาการทำงานหรือเกินเวลาทำงาน หรือที่เรียกว่า ทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน
กรณีนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันทำงานนี้ ให้นายจ้างจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่า 1.5 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้ สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
3. ค่าทำงานในวันหยุด หมายความถึง เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงานในวันหยุด กรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ หรืวันหยุดตามประเพณี หรือวันหยุดพักผ่อนประจำปี นายจ้างต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุด ให้แก่ลูกจ้างดังนี้
1. ลูกจ้างซึ่งมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด ให้จ่ายเพิ่มจากค่าจ้างอีกไม่น้อยกว่า 1 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่า1 เท่า ของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
2. ลูกจ้างซึ่งไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด ให้จ่ายไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
สิทธิของลูกจ้างกับวันหยุด
ตามกฎหมาย นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานสำหรับวันหยุดดังต่อไปนี้
1. วันหยุดประจำสัปดาห์ เว้นแต่ลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างรายวัน รายชั่วโมง หรือตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
2. วันหยุดตามประเพณี
3. วันหยุดพักผ่อนประจำปี
สามารถอธิบายเกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างในวันหยุดได้ดังนี้
วันหยุดประจำสัปดาห์ นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานสำหรับวันหยุด ยกเว้นแต่ลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างรายวัน รายชั่วโมง หรือตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
แยกได้เป็น 2 กรณี
- ลูกจ้างประจำหรือลูกจ้างรายเดือนซึ่งได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์แล้ว มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์เพิ่มจากค่าจ้างอีกไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ
- ลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างรายวัน รายชั่วโมง หรือตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วยต้องได้รับค่าจ้าง มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่าสองเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
วันหยุดตามประเพณี และวันหยุดพักผ่อนประจำปี นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานสำหรับวันหยุด โดยไม่ยกเว้น
ดังนั้นถ้ามีการทำงานในวันหยุดตามประเพณี หรือวันหยุดพักผ่อนประจำปี ลูกจ้างทุกประเภทมีสิทธิได้รับค่าจ้างเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 1 เท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่า1 เท่า ของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
4. ค่าล่วงเวลาในวันหยุด : หมายถึงเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นการตอบแทนการทำงานล่วงเวลาในวันหยุด
ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันหยุด ให้นายจ้างจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวันหยุด ให้นายจ้างจ่ายค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ หรือไม่น้อยกว่าสามเท่าของอัตราค่าจ้างต่อหน่วยในวันทำงานตามจำนวนผลงานที่ทำได้สำหรับลูกจ้างซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย
ค่าครองชีพ
ค่าครองชีพ หากนายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างมีจำนวนแน่นอนและจ่ายให้เป็นประจำทุกเดือนเช่นเดียวกับเงินเดือน โดยไม่คำนึงว่าลูกจ้างจะหยุดงานหรือไม่เช่นนี้ ย่อมถือว่าค่าครองชีพเป็นเงินส่วนหนึ่งที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเพื่อตอบแทนการทำงานปกติในวันทำงานของลูกจ้าง ค่าครองชีพเป็นส่วนหนึ่งของลูกจ้าง การที่นายจ้างกับสหภาพแรงงานทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างโดยมีเงื่อนไขมิให้นำค่าครองชีพไปรวมกับค่าจ้างเพื่อคิดคำนวณค่าชดเชยและเงินอื่น ๆ ที่คำนวณจากค่าจ้างและเงินเดือน จึงเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลผูกพันลูกจ้าง (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8938 - 8992/2552)
รู้หรือไม่ ?
การทำงานล่วงเวลา การทำงานในวันหยุด และการทำงานล่วงเวลาในวันหยุดนั้น บางสถานประกอบการอาจมีระเบียบข้อบังคับในการทำงาน ให้ขออนุญาตเป็นหนังสือ หรือต้องมีคำสั่งหรือการอนุมัติให้ทำเป็นหนังสือ เช่นนี้หากลูกจ้างทำงานในวันหยุดโดยไม่มีการอนุญาต อนุมัติ หรือมีคำสั่ง การทำงานดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ลูกจ้างสมัครใจไม่มีสิทธิเรียกค่าทำงานในวันหยุด (คำพิพากษาฎีกาที่ 1936/2526)
ตามตัวอย่างข้างต้น การใช้สิทธิตามกฎหมายอาจไม่สามารถใช้ได้กับทุกกรณี ต้องพิจารณาดูจากสัญญาจ้าง และข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของแต่ละสถานประกอบการ รวมถึงสภาพการจ้างรายบุคคล บางกรณีอาจมีพฤติการณ์พิเศษที่ต้องนำประกอบการพิจารณา ดังนั้นเพื่อความถูกต้องควรได้รับการปรึกษาจากทนายความที่มีความรู้ด้านกฎหมายแรงงานหรือเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองแรงงานที่รับผิดชอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น